ถึงจะสูงวัยแต่ก็ดูดีมีความสุขได้
คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อคิดถึงอายุที่มากขึ้นเรื่อย ๆ? หลายคนวิตกกังวลและอาจถึงกับกลัวด้วยซ้ำ เพราะส่วนใหญ่แล้วเมื่ออายุมากขึ้นก็มักจะมีเรื่องที่ไม่น่าปรารถนาตามมา เช่น ผิวหนังเหี่ยวย่น ร่างกายอ่อนแอ ขี้หลงขี้ลืม และโรคเรื้อรังต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อแก่ตัวลงสุขภาพของแต่ละคนต่างกัน บางคนมีความสุขกับบั้นปลายชีวิตเพราะมีสุขภาพดีทั้งทางกายและทางใจ การแพทย์ที่ก้าวหน้าสามารถรักษาและควบคุมโรคที่เป็นอยู่ได้ ผลก็คือ ในบางประเทศ ผู้คนอายุยืนยาวและมีสุขภาพแข็งแรงมากกว่าแต่ก่อน
ไม่ว่าจะมีปัญหาเนื่องจากอายุที่มากขึ้นหรือไม่ก็ตาม ส่วนใหญ่แล้วเราอยากดูดีและมีความสุขเมื่อแก่ตัวลง แต่จะทำอย่างไร? สิ่งที่ช่วยได้ก็คือมุมมองของเรา การเต็มใจยอมรับ และการปรับตัวเมื่อเข้าสู่วัยนี้ ขอให้เรามาพิจารณาคำแนะนำบางอย่างจากคัมภีร์ไบเบิลที่ง่ายและใช้ได้จริง
รู้ข้อจำกัดของตัวเอง: “ปัญญาอยู่กับคนใจถ่อม” (สุภาษิต 11:2, ฉบับ 1971 ) “คนใจถ่อม” ในที่นี้อาจหมายถึงผู้สูงอายุที่ยอมรับว่าตัวเองมีข้อจำกัดและไม่สามารถทำสิ่งต่าง ๆ อย่างที่เคยทำได้เหมือนเมื่อก่อน คุณตาชาลส์จากบราซิลอายุ 93 ปีมองสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นความจริง เขาบอกว่า “ถ้าคุณอยู่มานานก็แสดงว่าคุณแก่แล้ว และไม่มีทางที่จะย้อนเวลากลับไปได้”
การรู้ข้อจำกัดของตัวเองไม่ได้หมายความว่าคุณยอมแพ้และยอมรับว่า “ฉันแก่และทำอะไรไม่ได้แล้ว” การคิดแบบนี้จะทำให้คุณหมดความกระตือรือร้น หนังสือสุภาษิต 24:10 บอกว่า “ถ้าเจ้าป้อแป้ในวันที่มีความทุกข์ยากก็เห็นได้ว่ากำลังของเจ้านั้นน้อย” แต่คนที่รู้ข้อจำกัดของตัวเองจะไม่เป็นอย่างนั้น เขาจะพยายามทำเท่าที่ทำได้
ลุงโคราโดที่อยู่ในอิตาลีอายุ 77 ปีให้ข้อคิดที่น่าสนใจว่า “เมื่อขับรถขึ้นเขา คุณก็ต้องเปลี่ยนเกียร์และเลี้ยงคลัตช์ระวังอย่าให้เครื่องดับ” คล้ายกัน เมื่อแก่ตัวลงก็ต้องปรับเปลี่ยนหลายอย่าง ลุงโคราโดกับภรรยาพยายามมีความสมดุลเมื่อทำงานบ้านด้วยการพักเมื่อรู้สึกเหนื่อยจะได้ไม่ต้องหมดเรี่ยวหมดแรงเมื่อถึงตอนเย็น คุณยายแมเรียนอายุ 81 ปีจากบราซิลก็ทำอย่างนั้นด้วย เธอยอมรับความจริงเรื่องอายุที่มากขึ้นโดย
บอกว่า “ยายรู้ข้อจำกัดของตัวเองดีว่าต้องพักเหนื่อยสักหน่อยแล้วค่อยทำงานต่อ ยายจะนั่งหรือนอนลงเพื่ออ่านหนังสือหรือไม่ก็ฟังเพลง ยายต้องยอมรับว่าไม่สามารถทำทุกอย่างได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว”มีความสมดุล: “ผู้หญิงแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่เรียบร้อย สุภาพ และมีสติ” (1 ติโมเธียว 2:9) วลีที่ว่า “เสื้อผ้าที่เรียบร้อย” แสดงถึงความสมดุลและมีรสนิยมที่ดี ป้าบาร์บาราอายุ 74 ปีจากแคนาดาบอกว่า “ป้าพยายามจะทำให้ตัวเองดูเรียบร้อยและสะอาด ป้าไม่อยากถูกมองว่า ‘เป็นคนแก่ที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวไม่สนใจว่าตัวเองจะเป็นอย่างไร’” คุณยายเฟิร์นอายุ 91 ปีจากบราซิลบอกว่า “บางครั้งยายก็ซื้อเสื้อผ้าใหม่ ๆ บ้างเพื่อเติมสีสันให้กับชีวิต” แล้วชายที่สูงอายุล่ะเขาบอกอย่างไร? ลุงอันโตนิวอายุ 73 ปีซึ่งอยู่บราซิลบอกว่า “ลุงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะดูดีโดยใส่เสื้อผ้าที่สะอาดและใหม่อยู่เสมอ” และเพื่อให้ดูสะอาดเรียบร้อย เขาบอกอีกว่า “ลุงอาบน้ำและโกนหนวดทุกวัน”
ในทางตรงกันข้าม เป็นเรื่องสำคัญด้วยที่จะไม่เป็นห่วงมากเกินไปเรื่องการแต่งตัวจนลืมนึกถึงเรื่องการ “มีสติ” ป้าบ๊อกอิมอายุ 69 ปีจากเกาหลีใต้มีมุมมองในเรื่องการแต่งตัวอย่างสมดุล เธอบอกว่า “มันคงดูไม่เหมาะแน่ ๆ ถ้าจะใส่เสื้อผ้าที่ป้าเคยใส่ตอนสาว ๆ”
คิดบวกเข้าไว้: “วันเวลาทั้งหมดของคนรับทุกข์เป็นที่เศร้าหมอง แต่คนที่มีใจชื่นบานเปรียบเหมือนมีการเลี้ยงอยู่เสมอ” (สุภาษิต 15:15) เมื่อคุณอายุมากขึ้น คุณอาจรู้สึกแย่เมื่อนึกถึงเรี่ยวแรงที่เคยมีตอนเป็นวัยรุ่นและสิ่งต่าง ๆ ที่คุณเคยทำได้ ไม่แปลกที่จะรู้สึกแบบนี้ แต่อย่ารู้สึกแย่จนเกินไป การจมอยู่กับอดีตมีแต่จะทำให้คุณเศร้าหมองและไม่มีกำลังใจทำสิ่งต่าง ๆ ที่คุณยังทำได้ ลุงโจเซฟอายุ 79 ปีจากแคนาดาคิดในแง่บวก เขาบอกว่า “ลุงพยายามมีความสุขกับสิ่งที่ลุงทำได้และไม่ตีโพยตีพายกับสิ่งที่ทำไม่ได้ในตอนนี้”
ลองหาอะไรใหม่ ๆ ทำ การอ่านและการเรียนรู้จะช่วยให้คิดบวกได้ด้วย ดังนั้น คุณน่าจะหาโอกาสอ่านและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ ลุงเออร์เนสโตอายุ 74 ปีที่อยู่ในฟิลิปปินส์มักไปห้องสมุดและดูว่ามีหนังสืออะไรน่าอ่านบ้าง เขาบอกว่า “ลุงชอบอ่านเรื่องการผจญภัย มันเหมือนกำลังเดินทางไปกับตัวละครในเรื่อง” ลุงเลนนาร์ทอายุ 75 ปีจากสวีเดนถึงกับเรียนภาษาใหม่ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องยากมาก
เป็นคนใจกว้าง: “จงให้แก่ผู้อื่นแล้วผู้อื่นจะให้แก่เจ้า” (ลูกา 6:38) การให้เวลาและให้สิ่งต่าง ๆ แก่คนอื่นจนเป็นนิสัยจะทำให้คุณมีความสุขเพราะได้ทำอะไรบางอย่างเพื่อคนอื่น คุณยายโอซาอายุ 85 ปีซึ่งอยู่ที่บราซิลพยายามเต็มที่เพื่อจะช่วยเหลือคนอื่น ๆ แม้เธอเองจะมีข้อจำกัดด้านร่างกาย แต่ เธอบอกว่า “ยายมักโทรไปหาเพื่อนที่ป่วยหรือรู้สึกท้อแท้และก็เขียนจดหมายถึงพวกเขา บางครั้งยายก็จะให้ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ กับพวกเขา ยายชอบทำอาหารและขนมไปให้เพื่อนที่ไม่สบายด้วย”
การเป็นคนใจกว้างจะกระตุ้นคนอื่นให้ใจกว้างด้วย ป้าแจนอายุ 66 ปีจากสวีเดนบอกว่า “เมื่อคุณรักพวกเขา พวกเขาก็จะรักตอบ” ใช่แล้ว หลายคนพบว่าการเป็นคนใจกว้างจะสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเห็นคุณค่ากันและกันซึ่งทำให้คนอื่น ๆ ที่อยู่ด้วยมีความสุข
เป็นเพื่อนกับคนอื่น: “คนที่ปลีกตัวออกไปจากผู้อื่นจงใจจะทำตามตนเอง และค้านคติแห่งปัญญาอันถูกต้องทั้งหลาย” (สุภาษิต 18:1) บางครั้งคุณอาจอยากอยู่คนเดียวบ้าง แต่ขอให้หลีกเลี่ยงการแยกตัวอยู่ต่างหากและคิดแต่เรื่องตัวเอง ลุงอินโนเซนส์อายุ 72 ปีซึ่งอยู่ที่ไนจีเรียชอบคบหาสมาคมกับเพื่อน ๆ เขาบอกว่า “การมีเพื่อนทุกวัยทำให้ลุงมีความสุขมาก” ส่วนคุณตาเบอร์เยอายุ 85 ปีจากสวีเดนบอกว่า “ตาชอบอยู่ท่ามกลางเด็กวัยรุ่น ความหนุ่มแน่นของพวกเขาทำให้ตารู้สึกกระชุ่มกระชวยเป็นหนุ่มอีกครั้ง อย่างน้อยก็ในใจ” คุณอาจเริ่มด้วยการเชิญเพื่อนมาที่บ้านเป็นครั้งคราว ลุงฮันซิกอายุ 72 ปีจากเกาหลีใต้บอกว่า “ลุงกับป้าชอบชวนเพื่อนทุกวัยทั้งคนแก่และวัยรุ่นมาคุยกันหรือไม่ก็ทานข้าวเย็นด้วยกัน”
การเป็นเพื่อนเกี่ยวข้องกับการพูดคุยกัน ซึ่งต้องมีทั้งสองฝ่ายคือผู้พูดและผู้ฟัง ดังนั้น การเป็นเพื่อนที่ดีไม่ใช่แค่เอาแต่พูดฝ่ายเดียว ต้องฟังสิ่งที่เพื่อนพูดด้วย ป้าเฮเลน่าอายุ 71 ปีจากโมซัมบิกบอกว่า “ป้าเข้ากับคนอื่นได้ง่ายและทำดีกับพวกเขา ป้าฟังสิ่งที่พวกเขาพูดเพื่อจะรู้ว่าพวกเขาคิดอะไรและชอบอะไร” ลุงชูเซอายุ 73 ปีที่อยู่ในบราซิลก็บอกว่า “ใคร ๆ ก็ชอบอยู่กับคนที่เป็นผู้ฟังที่ดี สนใจและเห็นอกเห็นใจ ชมเชยผู้อื่น และมีอารมณ์ขัน”
เมื่อให้ความคิดเห็น ก็ให้ ‘คำพูดของคุณเป็นเหมือนอาหารที่ปรุงด้วยเกลือ’ (โกโลซาย 4:6) คุณควรคิดให้ดีก่อนพูดและพูดอย่างที่ให้กำลังใจคนอื่น
แสดงความขอบคุณ: ‘จงแสดงความขอบคุณ’ (โกโลซาย 3:15) การแสดงความขอบคุณเป็นเรื่องที่ดี เมื่อได้รับความช่วยเหลือการขอบคุณจะช่วยให้คุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น ป้ามารีพอลอายุ 74 ปีจากแคนาดาบอกว่า “ป้ากับลุงเพิ่งย้ายบ้านไปอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ มีเพื่อนหลายคนคอยช่วยเหลือเรา เราก็ไม่รู้จะขอบคุณพวกเขาอย่างไรดี เราเลยทำการ์ดขอบคุณให้พวกเขาและเชิญบางคนมากินข้าวด้วยกัน” ป้าแจวอนอายุ 76 ปีซึ่งอยู่ในเกาหลีใต้รู้สึกขอบคุณคนที่ขับรถรับส่งเธอไปหอประชุมมาก เธอบอกว่า “เพื่อแสดงความขอบคุณ ป้าเลยช่วยค่าน้ำมันบ้าง บางครั้งป้าก็เตรียมของขวัญชิ้นเล็ก ๆ และการ์ดขอบคุณให้”
นอกจากสิ่งที่กล่าวไปแล้ว เราควรรู้สึกขอบคุณที่มีชีวิตอยู่ กษัตริย์โซโลมอนเคยบอกไว้ว่า “สุนัขที่เป็นอยู่มันก็ยังดีกว่าสิงโตที่ตายแล้ว” (ท่านผู้ประกาศ 9:4) ใช่แล้ว การมีมุมมองที่ถูกต้องและพร้อมที่จะปรับตัวจะช่วยให้คุณเป็นผู้สูงวัยที่ดูดีมีความสุข